วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Taxi Driver แท็กซี่มหากาฬ 1976

Taxi Driver แท็กซี่มหากาฬ



มหากาฬ ไม่ได้หมายความว่า ACTION นะครัชแหม่ๆ 

ลังจากห่างหายจากการรีวิวหนังไปซะนาน ผมก็รู้สึกอยากจะเขียนอีกสักเรื่องให้เป็นโพสที่10

อเมริกาหลังสงครามเวียดนาม  มันจะต้องเกิดภาวะคนว่างงานจากเหล่าทหาร ที่ปลดประจำการมาเป็นแน่ และ คนที่เราจะพูดถึงนะจุดๆนี้เขาคือ  ทราวิช บิคเคิล  (โรเบิร์ต เดอ นีโร) อดีตทหารสังกัดกองเรือที่ ตัดสินใจมาล่าฝันใน New york เมืองที่เขาเชื่อว่าจะเป็นที่แห่งความหวัง ที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่หางานทำ

แต่ New york ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เขาคิดน่ะสิครับ   ทราวิช ประสบปัญหานอนไม่หลับ เขาจึงไปสมัครเข้าเป็นคนขับรถแท็กซี่ ทำงานกะดึก และ สิ่งที่เขาต้องเจอทุกๆคืน คือสภาพสังคมที่เสื่อมโทรมของ New york อันได้แก่ ปัญหาอาชญกรรมต่างๆ การทำร้ายคนขับรถแท็กซี่ และ โสเภณี มันทำให้เขารู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้ครับ เขามักจะเขียนไดอารี่ เล่าเรื่องราวต่างๆที่เขาได้ประสบพบเจอในแต่วัน (ตรงนี้จะเป็นภาพทราวิชนั่งเขียนไดอารี่และเป็น Over voice เสียงเขาบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ) ซึ่งจะมีให้เห็นเกือบทั้งเรื่อง  การที่เขาเขียนไดอารี่เป็นประจำถ้าคนดูสามารถจับความได้แต่ต้นเรื่องครับว่าเขาเป็นคนขี้เหงา ที่ไม่รู้ว่าจะไประบายความใจให้ใครฟังดี   นั้นทำให้เขาต้องการใครสักคนมาเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่เรื่อน  ทราวิช มักจะไปจอดรถแท็กซี่แอบมองสาวออฟฟิศคนนึง เป็นประจำบ่อยครั้งก็มักจะเขียนลง ไดอารี่ถึงเรื่องของเธอคนนั้นบ่อยๆ จนวันนึงเขากล้าที่จะเข้าจีบเธอแบบจริงๆจังครับ  แล้วเราคนดูก็จะได้รู้ว่าเธอคนนี้ชื่อ เบซซี่ (ซีบิลล์ เชพเพร์ด)   ทราวิชใช้ "ชิวหา" ได้เป็นเลิศ! "ผมสัมผัสได้ว่ามีอะไรระหว่างเราที่มันพิเศษมากๆ" อ้วกกกกกกก  ต่อครับต่อครับยังมีอีก "ตาคุณสวยมากๆครับสวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย" ยังๆไม่พอครับ "เราเหมือนถูกสร้างมาเพื่อคู่กัน" มันเสี่ยวมากครับคุณผู้ชมเล่นซะจนมดขึ้นที่ขอบจอโทรทัศน์  ทราวิชจึงออกปากชวนสาวเจ้าไปทานกลางวันด้วยและทำตอบที่ได้คือ....คือ....."ตกลงค่ะ"    มันทำได้เว้ยเฮ่ย เรื่องมันเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีอยู่แล้วเชียว (รู้สึกเหมือนกำลังหนังดูหนังรอมคอมซักหวานๆเรื่อง)ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น...


จุดเปลี่ยน

ทราวิซ ตัดสินใจชวน แม่นางเบซซี่ ไปชมภาพยนตร์ด้วยกันครับ โดยที่กำลังไม่รู้ว่า"หายนะ" กำลังจะเกิดขึ้นครับ ฮึๆๆ...   ทาวิซพาเธอดูไปหนังเรื่อง "ภาษารัก" เป็นหนังโป๊สัญชาติสเปนสุดคลาสสิค (เอ็งพลาดแล้วทราวิซ อิๆ)เหตุการณ์หลังจากนั้นคุณคงพอจะเดาออกนะครับ   เบซซี่ไม่พอใจอย่างแรงเธอ เดินหนีเขาออกมานอกเธอไม่พอใจเขาที่พอมาดูอะไรแบบนี้  โดยที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจว่าทำไมธอถึงหัวเสียก็เข
แม่นางเบซซี่
าดูหนังแบบนี้เป็นประจำอะ ? เขาเลยยื่นข้อเสนอว่าไปดูอะไรอย่างอื่นก็ได้คุณนำไปเลย แต่สาวเจ้าไม่ยอมครับ เธอเลยตีจากไปไม่ใยดีปล่อยให้ทราวิซ ยืนงงๆ  อันที่จริงคือ ทราวิซเขาไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรเท่าไหร่อยู่แล้วนะครับ ว่าอะไรควรไม่ควร มันน่าสงสารเขาจริงๆนะจุดๆนี้ คนที่หนังดูหนังเรื่องเรื่องนี้กับผมด้วยกัน พวกเขาก็มักจะตั้งคำถามขึ้นว่า มีมัน โง่ หรือ บ้า  คับคล้ายคับคราครับ มีเส้นบางๆขั้นกลางไว้อันนี้ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี      

ที่เขียนมาข้างบนนี่พลาดประเด็นๆหนึ่งไปครับ นั่นก็คือเรื่องของเบซซี่ เธอทำงานเป็นฝ่ายช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครเข้าท้าชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมือง New york ชาร์ล พาเลนไทน์  ซึ่งทีแรกทราวิซใช้เป็นข้ออ้างเข้าไปจีบเธอครับยิ่งตอนคบกันใหม่ๆก่อนเกิดเหตุการณ์ข้างบนนี่พี่แกก็เที่ยวเชียร์คุณ พาเลนไทน์ คนนี้แบบออกนอกหน้า ต้องการเอาใจสาวน่ะครับ  แล้วเราก็มาต่อจากด้านบน  ทราวิซ พยายามง้อเบซซี่ครับ แต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วยไม่ยอมคุยโทรศัพท์ส่งดอกไม้ไปก็ไม่ยอมรับ ปล่อยให้เน่าในที่อยู่ที่ในห้องทราวิซ พี่แกเลยบุกถึงที่ออฟฟิศต้องการจะคุยให้รู้เรื่อง แต่ก็โดนเพื่อนในที่ทำงานของเบซซี่ ผลักไสไล่ส่งออกมา นับตั้งแต่วินาทีนั้นผมว่าแค่ใครพูดเรื่องของ ชาร์ล พาเลนไทน์ ขึ้นมาคงสะกิดใจที่ทราวิซ ให้หวนย้อนนึกถึงเรื่องนี้เป็นแน่บาดจริงบาดใจไปเลยทีเดียว  ทราวิซกินน้ำละกำไปตามระเบียบ 


ปัญหาก็ประดังเข้ามาไม่หยุดครับเมื่อเกิดเหตุการทำร้ายคนขับแท็กซี่ระยะหลังนี่ถี่ขึ้นมากๆ  สมาคมแท็กซี่ชนกลุ่มน้อยของทราวิซก็เริ่มพูดถึงการหาทางป้องกันตัวเช่น พกปืน ทราวิซไม่รีรอครับทุ่มกำลังทรัพย์ซื้อปืนพกขนาดต่างมาไว้ในครอบครองพร้อมทั้งดัดแปลงอาวุธและฝึกฝนร่างกายในยามว่าง เพื่อรับมือกับสถานะการณ์คับขัน    


แล้วเธอคนนี้ก็เข้ามา...
วันนึง ขณะที่ทราวิซกำลังขับรถกะดึกมีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ13-14 วิ่งเข้ามาที่ท้ายรถบอก "พาชั้นไปจากที่นี่ที" แล้วก็มีผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้เจ้าเดินเข้ามาฉุดกระฉากหล่อนไปพร้อมโยนแบงค์ให้ทราวิซพร้อมบอกว่า "ลืมๆมันไปซะ"  เขาจำหน้าเด็กคนนั้นได้ติดตา และเมื่อเจอเธออีกครั้งเขาจึงพบกับความจริงที่ชวนตกใจที่ว่าเธอ เป็น โสเภณีเด็ก  ทราวิซเลยเข้าไปล่อซื้อ(ศัพท์ตำรวจซะด้วย)เธอจากเจ้าคนที่มาฉุดกระฉากซึ่งเราจะรู้ในภายหลังว่ไอ่หมอนี้เป็นแมงดาสมยานามว่า"สป็อต"
5 นาที 100 นึง 15 นาที 500 ห้ามต่อเข้าใจ๋ !

เด็กคนนี้เธอชื่อว่า "ไอริส" แต่ต้องการให้เรียกว่า Easy "อีซี่" เพราะ อี สป็อต ตั้งให้ เธอหนีออกจากบ้านมา New York และโดนล่อลวงโดย สป็อตด้วยเรื่องของความรักที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าถูกหลอก  ทราวิซ ทนกับเรื่องนี้ไม่ได้เขาต้องการเห็นความถูกต้องในสังคม เขาจะต้องลุกขึ้นทำอะไรสักอย่าง เพื่อเปลี่ยนความยุ่งเหยิงในสังคมและในจิตใจของเขา อยากแรกที่เขาจะทำก็คือช่วย ไอริส ให้พ้นจากเงื้อมมือมาร ทราวิซจะทำสำเร็จหรือไม่ชะตากรรมของเขาจะเป็นเช่นไรโปรดติดตามได้ใน Taxi Driver แท็กซี่มหากาฬ   ให้เสียงภาษาไทยโดย CVD อินเตอร์เนชั่นแนล  หรือไม่ก็ http://moviex2.blogspot.com/2013/08/mini-hd-taxi-driver-720p-4.html   อย่าไปบอกใครนะครับว่ามีให้โหลด ^^


ก่อนจากกัน...

ที่ตัวผมได้มีโอกาสสัญหาหนังเรื่องนี้มาดูอันเนื่องด้วย ติดใจฝีมือการแสดงของ ลุง เดอ นิโร จากหนังครอบครัวชุดเรื่อง Meet the parent  ปี 2003-2010 (หนังสามภาคนะครับไม่ใช่ซีรีย์) ลุงแกเล่นเป็นพ่อของนางเอกที่เป็น CIA ปลดกระเสียญบทแกจัดว่าฮาเข้าขั้นครับเรื่องนั้น


ทำให้เราสมัครเป็นแฟนผลงานลุงไปโดยปริยาย   บวกกับด้วยว่าเคยค้นหาข้อมูลดูว่าตอนหนุ่มๆแกมีผลงานอะไรที่จัดว่าเข้าขั้นบ้างชื่อต้นๆที่เข้ามา ตัวอย่าง Godfather 2 แล้วก็ taxidriver เมื่อลองค้นหารูปของหนังเรื่่องนี้ขึ้นมาดู  มันยิ่งชวนให้อยากรู้อยากเห็นเข้าไปใหญ่    ดูรูปนะครับ...

  คือแบบว่าเห็นแค่นี้ก็อยากรู้แล้วล่ะครับว่ามันเกี่ยวกับอะไร ทำไมลุงต้องตัดผมทรงนี้ ?  อกหักหรอ ? จากที่อ่านๆข้างบนมานั้นก็อาจเป็นส่วนนึงก็ได้ครับ  แล้วพอเมื่อได้ลองสัมผัสต้องขอบบอกเลยว่าเป็นที่คนอื่นดูแล้วอาจงงว่ามันต้องการจะสื่ออะไรว่ะ ? บางคนรับสารไม่เหมือนกันครับตัวผมได้ไปอ่านรีวิว  เจ้าอื่นๆมาบ้างแล้วแต่ละคนตีความไปในแบบต่างๆกัน ผมก็จะเอาใจความเท่าที่ผมพอจะจับได้มาเล่านะครับ ตัวละครอย่าง ทราวิซ เป็นเหมือนตัวแทนคนบ้านนอก หรือ ทหารผ่านศึกที่ เข้ามาล่าฝันในเมืองใหญ่ แต่เขาติดปัญหาเดียวก็คือเป็นคนที่ยังเห็นโลกนี้มาไม่มากพอ เขาไม่รู้บางเรื่องที่คนอื่นรู้ แต่ขณะเดียวกันคนอื่นก็ไม่รู้ในเรื่องที่เขารู้ดี งงไหมครับ ช้าๆนะ  ยกตัวอย่าง ทราวิซ มา New york เขาได้เห็นสภาพสังที่เสื่อมโทรมและโสมมจนเขาเอาไปเปรียบดั่งท่อระบายน้ำ ขณะที่ชาว  New york ทั่วๆไปกลับมองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติ   พวกเขาหลอกตัวเองว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาหรือ นี่เป็นธรรมชาติสังคมของพวกเขา ทราวิซ ไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้ทนกันได้ยังไง ทั้งปัญหา อาชญากร  โสเภณีเด็ก เขาจึงคิดอยากจะเปลี่ยนเรื่องนี้ทั้งหมดมันเก็บกดในหัวเขาได้แต่นั่งเอาเรื่องเหล่านี้ใส่ในไดอารี่ไปวันๆ พลันไปพูดให้สหายร่วมแท็กซี่ฟังเขาก็แย่งพูดว่่าเข้าใจซะทั้งหมด  เขาต้องการใครสักคนที่เขาจะพูดอย่างเปิดใจด้วยได้ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการก็เสียโอกาสมีเพื่อนคู่ใจไปซะ น่าเศร้าครับ ตัวผู้เขียนเมื่อเห็นอย่างนี้แล้วรุ็สึกว่าตัวเองต่อติดในบางเรื่องกับ ทราวิซ นะครับแต่ไม่ทั้งหมด  จะมีคนที่นั่งดูแล้วเอาใจช่วยเขา กับ กลุ่มนึงที่ดูแล้วจะนั่งหัวเราะชีวิตเขา เขามีหลายอย่างดูแล้วชวนให้เห็นใจตั้งเยอะ นำไปสู่บทสรุปที่ผมบอกได้เลยว่าเหนือความคาดหมายตอนจบเป็นอะไรที่จะทำคนที่เชียร์ทราวิซมาทั้งเรื่อง ไม่ร้องไห้โฮ่ๆ ก็ตบมือดีใจ ยิ้มจนแก้มปริ ยันไปถึงด่าเขาว่า มึงโง่รึเปล่า? ต้องไปลองดูเองครับ

หลายคนโดยเฉพาะคนไทยที่ยังไม่เคยไปต่างแดนและสุดแสนจะอยากไปย่างกายใน New York city ด้วยเห็นภาพและวิวทิวทัศน์ต่างในเมืองจากหนังเรื่องอื่นๆ หรือ โทรทัศน์ พวกนั้นเป็นส่วนที่เหมือนจะเป็นการโปรโมทเมืองเอาด้านสวยๆงามๆมาให้ได้ชมกัน แต่กับหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับ มาร์ติน สกอเซซี่
(Martin Scorsese) เขาเติบโตใน New york ตอนเด็กๆคงวิ่งเล่นอยู่แถวๆนั้น แกเลยสามารถเอามุมอับของเมืองมาอยู่ในที่แจ้งผ่านสายตาชาวโลกด้วยหนังเรื่อง กับการเล่าเรื่องแบบ study character ที่จะให้คนดูศึกษาตัวละครไปด้วยให้เห็นพัฒนาการของคนขี้เหงาได้อย่างกลมกล่อม ชื่อเรื่องว่าแท็กซี่มหากาฬ แต่มันไม่ได้บู๊ล้างผลาญอย่างชื่อหรอก มันเป็นหนังดราม่าเสียมากกว่า แต่เรื่องตีๆต่อยๆ ยิงๆ อะไรก็มีพอดีดูไม่น่าเกลียดหรือล้นจนเกินไป หนังเนิบๆถ้าคุณไม่มีทักษะยุทธในการเสพภาพยนตร์ขอแนะนำให้ดูตอนเช้าหลังกินข้าวเสร็จ เตรียมหนอมและผ้าห่มให้พร้อมเผื่อหนักหนังตา แต่ถ้าคุณเป็นคนขี้สงสัยแล้วล่ะก็คุณดูเรื่องนี้จนจบแน่เชื่อผม ^^

ระดับความบันเทิง

เป็นหนังคัลล์นอกระแสที่น้อยคนจะรู้จัก แต่ถ้ารักงานศิลปะ  เอาไปเลย

7.9 /10