วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

The Lone Ranger ลูกผีลูกคนจริงๆ

The Lone Ranger หน้ากากพิฆาตอธรรม !


ทำไมโปรยหัวว่าลูกผีลูกคน ?

ก่อนจะตีตั๋วเข้าดูเรื่องนี้นะครับ ได้รับฟังคำวิจารณ์มาจากหลายสำนัก  บ้างก็บอกว่าเนิบๆเอื่อยๆ บ้างก็บอกว่าพูดกันทั้งเรื่องไม่สนุก แอ็คชั่นน้อยเกินไป หาคำวิจารณ์ที่จะออกมาในแนวสรรเสริญเยินยอหนังไม่ค่อยจะมีหรอกครับ   ของอย่างนี้มันต้องไปพิสูจน์เอง ว่าจะเป็นลูกผีหรือลูกคน ของอย่างนี้มันอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลครับ  และเมื่อดูจบ นี่มันลูกผีลูกคนชัดๆ มีที่ทั้งชอบและไม่ชอบปนๆกันมาครับ เข้าเรื่องดีกว่า  

    
             

หน้ากากพิฆาตอธรรม !

 รือในชื่อปักกฤษ  The Lone Ranger เรื่องราวการผจญภัยของมือปราบชายหน้ากากและคู่หูชาวอินเดียนแดงนาม"ตอลโต้" ที่ผจญภัยไปทั่วแดนตะวันตกพิชิตคนพาลอภิบาลคนดี  เป็นศรีแก่สังคม  โดยเริ่มจากการเป็นละครวิทยุมาก่อนครับจนเป็นที่นิยมก็ได้มีการขยับขยายมาเป็นทีวีซีรีย์ในปี 

1949–1957  พร้อมเวอร์ชั่นหนังใหญ่ในปี  1956  
ฉบับทีวีซีรีย์

         ตามด้วยนิยายภาพ Comic ต่างๆ  และสื่อที่มีมาเรื่อยๆแต่จนเงียบหายไปนานถึง10ปี ปี2013 หน้ากากพิฆาตธรรมก็กลับมาอีกครั้งภายใต้แบรนด์ดังอย่าง Walt Disney  โดยหนังได้ผู้กำกับคือ  กอร์ เวอบินสกี้  (จากหนัง Pirates of the Caribbean ไตรภาค ) และโปรดิวเซอร์อย่าง  เจอร์รี่ บัคไฮเมอร์    ยกทีมกันมาจากหนังโจรสลัดไตรภาคเลยก็ว่าได้ !  

   นังเปิดเรื่องมาด้วยภาพของ งานวัดฝรั่ง ใน ซานฟรานซิสโก ปี1933  เด็กชายใส่หน้ากากที่เดินเข้าไปในบ้านคนแปลกระหว่างเดินชมมุมตะวันตกอยู่ ก็ไปสดุดตากับหุ่นอินเดียนแดงครับ  อยู่ๆหุ่นก็ขยับขึ้นได้เองและขอเด็กกินถั่ว ! ถั่วลิสง นะครับพออิ่มแล้วลุงอินเดียนก็เริ่มเล่าเรื่องการผจญภัยของตนให้เด็กน้อยฟัง      

   ปี 1868 รัฐเท็กซัส อเมริกาในยุคคาวบอยเฟื้อง ที่พวกคนขาวเริ่มจะมีวิทยาการในการสร้างรถไฟ ซึ่่งแน่นอนว่าการจะสร้างทางรถไฟบางทีก็อาจจะไปลุกล้ำเขตของผู้อยู่มาก่อนอย่างชนพื้นเมืองอินเดียนแดง ครับ ทำให้เกิดเป็นปัญหา แต่ก็ยังการมีการเจรจาเพื่อความสงบสุขครับซึ่งถ้าหากใครละเมิดกฎก่อนได้มีปะฉะดะกันแน่     จอห์น รีด (อามี แฮมเมอร์)  หลังจากไปเรียนกฎหมายที่นิวยอร์ทเป็นเวลา9ปี ก็ถึงแก่สมควรที่จะนำความรู้เรื่องกฎหมายที่เรียนมากลับมารับใช้บ้านเกิดเมืองนอนในฐานะอัยการเขต  แต่ระหว่างเดินทางก็เกิดเหตุชิงนักโทษในขบวนรถไฟอย่างไม่คาดฝัน 



บุช คาเวนดิช
ขุนโจรชื่อกระช่อนอย่าง บุช คาเวนดิช (วิลเลี่ยม ฟินช์เนอร์) หนีรอดไปได้ด้วยฝีมือเขานี้แหละครับและยังได้รู้จักกับ อินเดียนลึกลับเผ่าโคแมนชี่ ที่ชื่อตอลโต้ (จอนนี่ เดปป์) ซึ่งมีแผนการจะกำจัด บุช แต่ดั้นโดนจอห์นแหย่มือเขาไปช่วยครับ แผนที่เขาวางไว้เลยเป็นอันล้มเหลว    ตอลโต้ถูกควบคุมตัวโดยเหล่ามือปราบเท็กซัสซึ่งนำทีมโดย แดน พี่ชายของ จอห์น     แดนวางแผนจะตามล่าบุชแบบจับตาย แต่จอห์นซึ่งเรียนกฎหมายมามีความตั้งใจจะจับบุชไปขึ้นศาลให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย ทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกันแต่ผู้เป็นพี่ก็ต้องยอมน้องครับให้จอห์นร่วมเดินทางไปด้วยในครั้งนี้    แต่แผนการกับล่มไม่เป็นท่าครับเนื่องด้วยว่า "เกลือเป็นหนอน" ไม่สปอยนะครับ  ขบวนเดินทางของแดนถูกดักซุ่มโจมตี คาดว่าน่าจะตายกันหมดนะครับ จนตอลโต้โผล่มา ! (เฮ้ย อยู่ฮ่องกงไม่ใช่หรอนายออกมาได้ยังไง)  มาขุดหลุมเตรียมฝังศพ แต่เผอิญตอนแกกำลังจะฝังจอหน์ พี่แกสะดุ้งตื่นครับ ตอลโต้ เลยเอาก้อนหินโคกเข้าให้หลับไปอีกสักพัก จึงเข้าใจว่านี่อาจเป็นชะตากำหนดให้ชายผู้นี้เป็นผู้ไม่ตายในสนามรบเนื่องจากจิตวิญาณของชาวอินเดียนแดง ซึ่งในเรื่องเป็น ม้าขาว ได้เข้ามาปลุกจอหน์ให้ฟื้น  เมื่อจอหน์ฟื้นขึ้นมาและได้สนทนากับตอลโต้ทำให้รู้ว่าเขาทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันนั้นก็คือตามล่าบุช จึงตกลงร่วมมือกันโดยตอลโต้ต้องการให้จอห์นสวนหน้ากากเพื่อปกปิดฐานะของตน และ การพจญภัยของทั้งสองก็ได้เริ่มต้นขึ้น !       
            

ยังมีตัวละครที่ได้พูดถึงข้างบนอีกนะครับได้แก่   




รีเบลคก้า  รีด(รูท วิลสัน)  สาวมั่นลูกหนึ่ง ภรรยาของแดน ภาพลักษณ์ที่หนังพยายามจะนำเสนอให้เธอดูอ่อนแอแต่ที่แท้เธอเป็นสาวแกร่งครับ ถึงเธอจะแต่งกับ แดน แต่ เธอก็ยังแอบมีใจให้จอห์นครับ แล้วเธอก็ยังเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้จอหน์กลับมาบ้านเกิด  ซึ่งคนที่มองเรื่องนี้ออกแต่แรกคือ ตอลโต้ครับ




เลทั่ม  โคล์  (ทอม วิคคินสัน)  ชายผู้เป็นเจ้าของเครือข่ายรถไฟ โดยมีโครงการที่จะต่อทางรถไฟให้ล้ำเข้าไปในเขตุของพวกอินเดียนครับ เขาคอยจ้องมอง รีเบลคก้า ด้วยสายตาชวนขนลุกครับดูยังไงๆก็เหมือนหม้อกันชัดๆ ขนาดเจ๊แกมีลูกแล้วนะนั้น แต่เขาค้อนข้างที่จะมีความเห็นไม่ลงลอยกับแดน สักเท่าไหร่ 



เรด แฮริงตั้น (เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์) แม่เล้าขาขาว (ขาวยังกะงาช้าง)บุชเคยช่วงชิงบางอย่างจากเธอไปเมื่อจอห์นและตอลโต้เข้าไปถามข่าวคราวเกี่ยวกับบุช เธอจึงขอร่วมวงสนับสนุนทั้งด้วยคนครับ ออกมาน้อยฉากก็จริงแต่เรียกเสียงฮาได้ใช่ย่อย


ซิลเวอร์ ! สีหมอกยอดอาชา

จิตวิญญาณของอินเดียนแดง ม้าตัวสีขาวปลอดได้เลือกจอห์นให้ฟื้นจากความตาย ภายหลังเป็นพาหนะคู่ใจของจอห์นเลยก็ว่าได้หน้ารักๆมากครับ    ม้าตัวนี้ขโมยซีนทุกฉากเลย ตั้งกระดกเหล้า ยัน ปีนหลังคาบ้าน ม้าตัวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ  ในเว็บบอร์ดพันทิพมีคอมเม้นนึงที่กล่าวว่านักแสดงที่ดีที่สุดในหนังหนังคือม้าตัวนี้ ! มันฟังดูแปลกๆแรงๆยังไม่รู้ก็ ลองไปหาคำตอบเอาเองนะครับสำหรับผมก็ถือว่านักแสดงทุกคนเล่นสุดความสามารถแล้วเอาไปเทียบกับม้าไม่ได้หรอก ^^

มาชำแหละหนังกันเถอะ !

       ตัวหนังใช้การเล่าเรื่องของ ตอลโต้ (ตอนแก่) ให้เด็กน้อยฟัง เป็นการดำเนินเรื่องครับเหมือนเล่านิทาน  ช่วงแรกอาจจะดูอืดๆครับ จนถึงฉากการชิงตัวนักโทษบนรถไฟที่มีให้ขำบ้าง หวาดเสียวบ้าง กลางเรื่องก็จะมีการคลายปมต่างๆของตัวละครออกมาเรื่อยๆครับ และจะไปบู๊แหลกกันอีกก็ตอนใกล้จบโน้นเลย  ความสัมพันธ์ของตัวละคร ดูฉาบฉวยเกินไปครับ รีเบลคก้าดูไม่ค่อยรักแดนเท่าไหร่ขนาดลูกหนึ่งแล้ว จอห์นก็แอบคิดอกุศลกับ พี่สะใภ้  แต่พอแดนตายแล้วบอกฝาก รีเบลคก้าให้จอห์นดูแลอันนี้ค่อยโลงใจแทนครับ แต่ก็เป็ห่วงเด็กน้อยแดนนี่ ว่าอยู่ดีๆ อา กลายมาเป็น พ่อจะรู้สึกยังไง ?    
ความสัมพันธ์ระหว่างตอลโต้ กับ จอห์น ที่เคยเห็นมาในภาคก่อนๆอาจจะคล้ายกับ  แบทแมน กับ โรบิ้น   รพินท์ กับ แงซาย (เพรชพระอุมา)     แต่มาเวอร์ชั่นนี้ไม่มีความสัมพันธ์แบบ นาย กับ บ่าวครับจะบอกว่าเป็นเพื่อนกันก็ดูจะพูดไม่ได้เต็มปาก เพราะต่างคนต่างเกรียนใส่กัน ทะเลาะกันก็งอลกันน่ารักเชียวครับคู่นี้  อาจกลายเป็นคู่จิ้นคู่ต่อไปในโลกอินเตอร์เน็ตก็เป็นได้ ! 





แรกๆหลายคนกลัวการแสดงของจอห์นนี่ เดปป จะเบียดนักแสดงหน้าใหม่อย่า อาร์มี แฮมเมอร์ แต่ผลที่ออกมาคือทั้งสองมีเคมีที่เข้ากันได้ครับ อาร์มี่ ไม่ถึงกับโดนบดบงรัศมีจนหมด บุคคลิกของเขาในหนังออกจะ ซื่อบริสุทธิ์ จน ซื่อเบื้อ เลยครับเชื่อในกฎหมายมากๆ  ส่วนตอลโต้เป็นประเภทพูดน้อยต่อยหนักครับ หลายคนบอกว่านี่แหละแจ็คสแปร์โรว์เวอร์ชั่นอินเดียนแดงไม่เถียงครับ แต่ก็ไม่ด้นออกหน้าออกตาเท่าแจ็ค   สองคนนี้ทำให้นึกถึง  คู่ผจญภัย  แจ็ค กับ วิล ใน Pirates of the Caribbean  ภาคแรก กับ คู่เกรียนอย่าง หน้ากากแตน กับ เคโต้ ก็ไม่ปาน    ด้านดนตรีประกอบหายห่วงครับ Han zimmer (ฮาน ซิมเมอร์) มาเองหายห่วง และยังมีการนำเพลงธีมหลักที่เคยใช้ใน The Lone Ranger เวอร์ชั่นซีรีย์กับมาดัดแปลงใช้อีก 
          ในฉากยิงกันตอนท้ายใช้เพลงนี้คลอจังหวะได้อย่างลงตัวครับ  เพลงชื่อว่า "Finale" ฟินสมชื่อเพลงครับ  หลายคนอาจจะคุ้นๆนะครับ Pizzahut เคยเอาไปใช้เป็นเพลงสปอร์ทโฆษณาอยู่พักนึงถ้าเกิดทันหรือยังจำกันได้นะ ^^
 
สรุปแล้วหนังมีฉากเท่ๆ บรรยากาศทะเลทรายสวยงามตา ถ้าใครเป็นแฟนหนังคาวบอยก็คงชอบได้ไม่ยากครับ แอ็คชั่นอาจจะยังไม่ถึงใจ  แต่เนื้อหาสาระก็ยังพอมีนะครับ   ซึ่งไม่ต่างจากจังโก้ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ที่ต้องการให้เราตระหนักถึงความน่ากลัวของความโลภที่มีอยู่ในใจมนุษย์ ยอมทำทุกอย่างแม้จะต้องฆ่าล้างชีวิต จึงส่งผลสืบเนื่องมาให้ ตอลโต้คิดจะแก้ไขสิ่งที่เขาทำพลาดในอดีตด้วยการล้างแค้น เห็นไหมครับการฆ่าเมื่อได้เริ่มแล้วไม่มีวันจบสิ้นครับ มันก็จะวนเวียนต่อไปเรื่อยๆ หากเราปล่อยวางได้แล้ว ก็เท่ากับหยุดวงจรนี้ได้อย่างเด็ดขาดครับ  กฎหมายจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ถ้าหากยังมีคนแหกกฎ หรือผู้ตั้งกฎแหกกฎซะเอง จอห์นที่ศึกษากฎหมายมาจึงเห็นควรละครับที่จะต้องลูกขึ้นสู้กับพวกที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำความชั่ว  หนังดีครับเรื่องนี้หากเรามองข้ามเรื่องคำวิจารณ์รายรับของหนัง เทคนิคพิเศษ  แล้วหันมาสนใจตัวเนื้อหนังจริงๆคุณจะได้อะไรดีๆจากเรื่องนี้เยอะเลยครับ แต่มันยังไม่สุดครับยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่หวังไว้ ลูกผีก็ไม่ใช่ลูกคนก็ไม่เชิง 




6.9/10

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Game of Death หนังเรื่องสุดท้ายของ"บรู๊ซลี" !


Game of Death ไอ้หนุ่มซินตึ้ง เกมส์มังกร 

ใครคือ บรูซ ลี  Bruce Lee ?  

เชื่อว่าหลายคนตั้งเคยคำถามว่า  ไอ้ผู้ชายที่ร้อง วู้ๆๆๆ อั๊ตต้า ๆๆๆ  ใส่ชุดจั๊มส์สูทสีเหลืองลำกระบองสองท่อนคนนี้เขาคือใคร   ผมเคยถามคนรู้จักคนอายุอานามก็ประมาณรุ่นน้องๆ(14-15)ผมรู้จัก บรูซลี ปะ คำตอบที่ได้คือไม่ตอนแรกคิดว่าตัวเรานี้แก่เกินหรือเด็กมันไม่รู้จริงๆ แต่พอคนที่ไม่รู้จักบรู๊ซลี ได้เห็นภาพนี้เข้าแล้วเป็นต้องถึงบางอ้อครับ เขานี้แหละบรูชลี  บรูซลีหรืออีกชื่อคือ  หลี เสี่ยวหลง  ดาราจีนที่ไปโด่งดังที่Hollywood เขาคนนี้เคยเรียนมวย หย่งชุน มาระยะนึงครับคนที่สอนก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ ยิปมัน หรือ Ip man นั้นเอง !   


แต่ภายหลังเขาก็ได้พัฒนาศิลปะการต่อสู้ขึ้นเองโดยใช้ดึงเอาศิลปะหลายแขนงมาผสมกันจนเกิดเป็น จีทคุนโด้ แบบที่เราจะเห็นเขามักใช้ในหนังครับ มีฝรั่งลูกศิษย์อย่างล้นหลามครับและเป็นที่แพร่หลายในไม่นาน เขาเริ่มเข้าวงการแต่แต่ยังเด็กๆเลยครับในหนังและละครบ้าง แต่หนังใหญ่ของเขาที่เป็นที่จดจำมีเพียง 5 เรื่องเท่านั้นครับด้วยเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อปี1973 ลีจากไปด้วยอาการลมบ้าหมูชักกระทันหัน(บางที่บอกว่ สมองบวม)เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ อายุเขาตอนนั้นเพียงแค่ 32 เท่านั้น แม้จะมีครอบครัว แต่ลูกชายเขา แบรนดอน ลี ก็มาถูกยังเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้นอายุสั้นทั้งพ่อทั้งลูก ปัจจุบันครอบครัวเหลือเพียง ภรรยา ของเขา กับลูกสาว      บรูซ ลี ถือเป็น ICON ที่จะพบบ่อยในสื่อต่างๆที่เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ครับ ภาพชุดจั๊มสูทของเขาจึงเรียกได้ว่าเป็นอีกภาพติดตามาจนถึงปัจจุบัน 
            

Game of Death ไอ้หนุ่มซินตึ้ง เกมส์มังกร 


ป็นภาพยนตร์ที่บรูซ ลีได้วางแผนเพื่อที่จะสาธิตศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของเขา  ความยาวโดยประมาณอยู่ที่ 47 นาที โดยมีเรื่องราวสั้นเกี่ยวกับประลองเพื่อตามหาสิ่งของบางอย่างบนเจดีย์5ชั้นในเกาหลีใต้    





ภายหลังHollywood ได้ยื่นข้อเสนอมาทางลีเพื่อเอาฉากการต่อสู้เหล่านี้ขยายเป็นหนังเสกลใหญ่ โอกาสงามๆไม่คว้าไว้ก็เสียดายแย่สิครับ ! ลีตอบตกลง แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มถ่ายทำ ลีก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับครับ  แต่โปรเจ็กต์ก็ยังต้องเดินหน้าต่อครับ 

เนื้อเรื่องในหนังว่าด้วย ชีวิตของนักแสดงบู๊ บิลลี่ ลู๊ (บรูซ ลี)ที่ถูกองค์กรอาชญกรรมกลุ่มหนึ่งหมายมั่นที่จะนำเข้ามาเข้าสมาคมครับแต่ บิลลี่ ไม่ยอมครับพวกมันจึงการเชือดไก่ให้ลิงดู อุบัติเหตุสปอตไลท์ หล่นเกือบทับเขาในกองถ่าย   ส่งแก๊งมอเตอร์ไซค์ มารุมซ้อม  แต่ บิลลี่ ก็ผ่านมาได้ครับโดยมีแฟนสาวและเพื่อนนักข่าวคอยให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือ จนพวกนั้นเริ่มจะหมดความอดทนจึงสั่งเก็บบิลลี่ในกองถ่าย โดยส่งลูกสมุนเข้าไปแฝงตัวในทีมสตั๊นท์ครับใช้กระสุนจริง ยิงบิลลี่ในขณะถ่ายทำ  แต่บิลลี่ก็สามารถรอดมาได้ครับกระสุนถากหัวไปนิดเดียว(เลือดอาบทั้งหน้า)เพื่อนนักข่าวของเขาจึงเสนอให้บิลลี่จัดฉากการตายของเขาขึ้นมาครับเพื่อรอหาโอกาสล้างแค้น และจะได้เป็นการปกป้องแฟนสาวของเขาด้วย เมื่อบิลลี่หายดีปฎิบัติการล้างแค้นเอาคืนแบบศาลเตี้ยจึงเริ่มขึ้นครับ !


ถ้า บรู๊สลี ได้เล่นจริงๆจะดีมากๆ

ตอนเรื่องนี้ได้เข้าฉายสร้างความฮือฮามากครับ เพราะเขาเขียนจั่วหัวว่าการกลับมาของบรู๊ซลี ยุคนั้นใครเห็นเป็นต้องอยากดู ไม่รู้ว่ากระแสตอบรับเป็นยังไงแต่สำหรับตัวผมแล้วให้ตายสิ! ถ้าบรู๊ซลียังอยู่หนังเรื่องนี้จะเยี่ยมกว่านี้แน่นอนเพราะ ฉากส่วนใหญ่ในหน้งเป็นการเอาฟุตเทส ของหนัง4เรื่องก่อนหน้านี้มาตัดให้เข้ากับสถานะการณ์ในฉากครับ เป็นต้นว่าฉากนี้เป็นหนังที่ตัวบิลลี่กำลังแสดงอยู่ อะไรแบบนี้ ซึ่งมันดูไม่เนียนอย่างแรงครับ  ฉากอื่นในหนังที่บิลลี่ต้องออกบทพูดจริงๆใช้นักแสดงแทนหมดเลย(เพราะลีตายแล้วอย่าลืม)
                                                                    โดยใช้นักแสดงคนนี้แหละครับ ตัวผมก็ไม่ทราบชื่อของเขา ลองหาข้อมูลดูก็ยากจะมีได้รูปมาเห็นหน้าชัดๆก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว  โดยฉากที่เขาต้องแสดง ก็จะใช้หลายอย่างช่วยครับ เช่น มุมกล้องที่ต้องถ่ายไกลๆ หรือให้เห็นแค่ด้านหลัง  กับสวมแว่นกันแดดเพื่อปกปิดดวงตาตลอดลองไปสังเกตุดูครับเขาใส่แว่นกันแดดแล้วดูเหมือนมากๆอย่าให้ถอดเชียวไม่ว่าจะเป็นตอนกลางคืน หรือยามต่อสู้ ! ยิ่งตอนกลางๆเรื่อง หลังจากบิลลี่โดนลับสังหาร หน้าเขาจะมีแผลเป็นจึงต้องปลอมตัว   หวานหมูเฮียคนนี้เลยครับ ทั้งหนวดทั้งแว่นแปะซะเหมือนบรูซลีมาเอง !
                     


แต่ถ้าเป็นฉากที่ต้องโครสอัพหน้าเขาจริงๆละก็ การตัดต่อในสมัยนั้นจึงเข้ามามีบทบาทครับ 
เนียนมว๊ากๆเบย  !

แล้วที่จะปลอมไม่ได้เลยก็คือ สไตล์การต่อสู้ของตัวลีเองนั้นหละครับที่ดูดิบเถื่อนและรุนแรงแบบไม่เฟกเลย    ตัวแสดงแทนคนนี้เขาสามารถเลียนแบบท่าทางของลีได้ในระดับนึงครับแต่ท่าสังเกตุดีๆก็จะเห็นว่าลอกมาแค่ท่าครับ ความคล่องตัวยังคนละชั้นกัน คิวบู้เลยดูเหมือนนับจังหวะเตะต่อย1-2 ไม่ถึงเล่นจริงเจ็บจริง ดูออกว่าเตี๊ยมกันมา  มีเพียงฉากต่อสู้ตอนท้ายเท่านั้นแหละครับที่มาจากฟุตเทส ที่ลีถ่ายไว้  ดูลื่นตาที่สุดแล้วในหนัง และ เป็นสิ่งที่กล่าวขวัญกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้


วู๊ๆๆๆๆๆๆ
นี่ถือเป็นลูกสมุนตัวร้ายที่น่าเกรงขามที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้ครับ ฮา คิม (คารีม อับดุล จาบาร์ ) เป็นนักฆ่าในสังกัดของแก๊งอาชญากรของ ด็อกเตอร์ แลนด์ ครับด้วยขนาดตัวชวนตกใจคนดูถึงกับลุ้นครับว่าบิลลี่จะล้มไอ้หมอนี้ยังไง   

คารีม อับดุล จาบาร์ อดีตนักบาส ก็เป็นลูกศิษย์ จิบคุนโด้ ในสังกัดของลีเองด้วยงานนี้เลยได้แสดงด้วย  หลังจากงานนี้เขาก็ยังมีงานแสดงเรื่อยๆมาครับ
โอ้แม่เจ้า !

ว่ากันที่ตัวหนัง 

หนังเรื่องนี้พล็อตไม่ต่างอะไรจากหนังแนวตามล่าล้างแค้นที่มากันเกลื่อนในสมัยนี้ครับ แต่ที่สำคัญของเรื่องนี้คือพระเอกไม่ใช้ปืนหมัดมวยทั้งเรื่อง เนื้อหาไม่ซับซ้อนไม่หักมุม สนุกกำลังดี  คิวบู๊ที่ได้หงจินเป่ากำกับก็ยังพอทำเนาครับแต่ไม่สะใจเท่าที่ลีเคยทำไว้ ฉากจัดงานศพบิลลี่ ลู๊ก็ได้ใช้ภาพงานศพของลีเองให้เป็นประโยชน์ด้วยครับ สมจริงโดยไม่ต้องเซ็ต นักแสดงในเรื่องเล่นได้ในมาตรฐานที่น่าพอใจเสียดายก็ตรงที่ว่าลีไม่ได้อยู่เล่นหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองครับดราม่าอาจจะดีกว่านี้หลายเท่า

                                
  5.5/10