Game of Death ไอ้หนุ่มซินตึ้ง เกมส์มังกร
ใครคือ บรูซ ลี Bruce Lee ?
เชื่อว่าหลายคนตั้งเคยคำถามว่า ไอ้ผู้ชายที่ร้อง วู้ๆๆๆ อั๊ตต้า ๆๆๆ ใส่ชุดจั๊มส์สูทสีเหลืองลำกระบองสองท่อนคนนี้เขาคือใคร ผมเคยถามคนรู้จักคนอายุอานามก็ประมาณรุ่นน้องๆ(14-15)ผมรู้จัก บรูซลี ปะ คำตอบที่ได้คือไม่ตอนแรกคิดว่าตัวเรานี้แก่เกินหรือเด็กมันไม่รู้จริงๆ แต่พอคนที่ไม่รู้จักบรู๊ซลี ได้เห็นภาพนี้เข้าแล้วเป็นต้องถึงบางอ้อครับ เขานี้แหละบรูชลี บรูซลีหรืออีกชื่อคือ หลี เสี่ยวหลง ดาราจีนที่ไปโด่งดังที่Hollywood เขาคนนี้เคยเรียนมวย หย่งชุน มาระยะนึงครับคนที่สอนก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ ยิปมัน หรือ Ip man นั้นเอง !
แต่ภายหลังเขาก็ได้พัฒนาศิลปะการต่อสู้ขึ้นเองโดยใช้ดึงเอาศิลปะหลายแขนงมาผสมกันจนเกิดเป็น จีทคุนโด้ แบบที่เราจะเห็นเขามักใช้ในหนังครับ มีฝรั่งลูกศิษย์อย่างล้นหลามครับและเป็นที่แพร่หลายในไม่นาน เขาเริ่มเข้าวงการแต่แต่ยังเด็กๆเลยครับในหนังและละครบ้าง แต่หนังใหญ่ของเขาที่เป็นที่จดจำมีเพียง 5 เรื่องเท่านั้นครับด้วยเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อปี1973 ลีจากไปด้วยอาการลมบ้าหมูชักกระทันหัน(บางที่บอกว่ สมองบวม)เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ อายุเขาตอนนั้นเพียงแค่ 32 เท่านั้น แม้จะมีครอบครัว แต่ลูกชายเขา แบรนดอน ลี ก็มาถูกยังเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 28 ปีเท่านั้นอายุสั้นทั้งพ่อทั้งลูก ปัจจุบันครอบครัวเหลือเพียง ภรรยา ของเขา กับลูกสาว บรูซ ลี ถือเป็น ICON ที่จะพบบ่อยในสื่อต่างๆที่เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ครับ ภาพชุดจั๊มสูทของเขาจึงเรียกได้ว่าเป็นอีกภาพติดตามาจนถึงปัจจุบัน
Game of Death ไอ้หนุ่มซินตึ้ง เกมส์มังกร
เป็นภาพยนตร์ที่บรูซ ลีได้วางแผนเพื่อที่จะสาธิตศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของเขา ความยาวโดยประมาณอยู่ที่ 47 นาที โดยมีเรื่องราวสั้นเกี่ยวกับประลองเพื่อตามหาสิ่งของบางอย่างบนเจดีย์5ชั้นในเกาหลีใต้
ภายหลังHollywood ได้ยื่นข้อเสนอมาทางลีเพื่อเอาฉากการต่อสู้เหล่านี้ขยายเป็นหนังเสกลใหญ่ โอกาสงามๆไม่คว้าไว้ก็เสียดายแย่สิครับ ! ลีตอบตกลง แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มถ่ายทำ ลีก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับครับ แต่โปรเจ็กต์ก็ยังต้องเดินหน้าต่อครับ
เนื้อเรื่องในหนังว่าด้วย ชีวิตของนักแสดงบู๊ บิลลี่ ลู๊ (บรูซ ลี)ที่ถูกองค์กรอาชญกรรมกลุ่มหนึ่งหมายมั่นที่จะนำเข้ามาเข้าสมาคมครับแต่ บิลลี่ ไม่ยอมครับพวกมันจึงการเชือดไก่ให้ลิงดู อุบัติเหตุสปอตไลท์ หล่นเกือบทับเขาในกองถ่าย ส่งแก๊งมอเตอร์ไซค์ มารุมซ้อม แต่ บิลลี่ ก็ผ่านมาได้ครับโดยมีแฟนสาวและเพื่อนนักข่าวคอยให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือ จนพวกนั้นเริ่มจะหมดความอดทนจึงสั่งเก็บบิลลี่ในกองถ่าย โดยส่งลูกสมุนเข้าไปแฝงตัวในทีมสตั๊นท์ครับใช้กระสุนจริง ยิงบิลลี่ในขณะถ่ายทำ แต่บิลลี่ก็สามารถรอดมาได้ครับกระสุนถากหัวไปนิดเดียว(เลือดอาบทั้งหน้า)เพื่อนนักข่าวของเขาจึงเสนอให้บิลลี่จัดฉากการตายของเขาขึ้นมาครับเพื่อรอหาโอกาสล้างแค้น และจะได้เป็นการปกป้องแฟนสาวของเขาด้วย เมื่อบิลลี่หายดีปฎิบัติการล้างแค้นเอาคืนแบบศาลเตี้ยจึงเริ่มขึ้นครับ !
ถ้า บรู๊สลี ได้เล่นจริงๆจะดีมากๆ
ตอนเรื่องนี้ได้เข้าฉายสร้างความฮือฮามากครับ เพราะเขาเขียนจั่วหัวว่าการกลับมาของบรู๊ซลี ยุคนั้นใครเห็นเป็นต้องอยากดู ไม่รู้ว่ากระแสตอบรับเป็นยังไงแต่สำหรับตัวผมแล้วให้ตายสิ! ถ้าบรู๊ซลียังอยู่หนังเรื่องนี้จะเยี่ยมกว่านี้แน่นอนเพราะ ฉากส่วนใหญ่ในหน้งเป็นการเอาฟุตเทส ของหนัง4เรื่องก่อนหน้านี้มาตัดให้เข้ากับสถานะการณ์ในฉากครับ เป็นต้นว่าฉากนี้เป็นหนังที่ตัวบิลลี่กำลังแสดงอยู่ อะไรแบบนี้ ซึ่งมันดูไม่เนียนอย่างแรงครับ ฉากอื่นในหนังที่บิลลี่ต้องออกบทพูดจริงๆใช้นักแสดงแทนหมดเลย(เพราะลีตายแล้วอย่าลืม)
โดยใช้นักแสดงคนนี้แหละครับ ตัวผมก็ไม่ทราบชื่อของเขา ลองหาข้อมูลดูก็ยากจะมีได้รูปมาเห็นหน้าชัดๆก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว โดยฉากที่เขาต้องแสดง ก็จะใช้หลายอย่างช่วยครับ เช่น มุมกล้องที่ต้องถ่ายไกลๆ หรือให้เห็นแค่ด้านหลัง กับสวมแว่นกันแดดเพื่อปกปิดดวงตาตลอดลองไปสังเกตุดูครับเขาใส่แว่นกันแดดแล้วดูเหมือนมากๆอย่าให้ถอดเชียวไม่ว่าจะเป็นตอนกลางคืน หรือยามต่อสู้ ! ยิ่งตอนกลางๆเรื่อง หลังจากบิลลี่โดนลับสังหาร หน้าเขาจะมีแผลเป็นจึงต้องปลอมตัว หวานหมูเฮียคนนี้เลยครับ ทั้งหนวดทั้งแว่นแปะซะเหมือนบรูซลีมาเอง !
แต่ถ้าเป็นฉากที่ต้องโครสอัพหน้าเขาจริงๆละก็ การตัดต่อในสมัยนั้นจึงเข้ามามีบทบาทครับ
นี่ถือเป็นลูกสมุนตัวร้ายที่น่าเกรงขามที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้ครับ ฮา คิม (คารีม อับดุล จาบาร์ ) เป็นนักฆ่าในสังกัดของแก๊งอาชญากรของ ด็อกเตอร์ แลนด์ ครับด้วยขนาดตัวชวนตกใจคนดูถึงกับลุ้นครับว่าบิลลี่จะล้มไอ้หมอนี้ยังไง
คารีม อับดุล จาบาร์ อดีตนักบาส ก็เป็นลูกศิษย์ จิบคุนโด้ ในสังกัดของลีเองด้วยงานนี้เลยได้แสดงด้วย หลังจากงานนี้เขาก็ยังมีงานแสดงเรื่อยๆมาครับ
โอ้แม่เจ้า ! |
ว่ากันที่ตัวหนัง
หนังเรื่องนี้พล็อตไม่ต่างอะไรจากหนังแนวตามล่าล้างแค้นที่มากันเกลื่อนในสมัยนี้ครับ แต่ที่สำคัญของเรื่องนี้คือพระเอกไม่ใช้ปืนหมัดมวยทั้งเรื่อง เนื้อหาไม่ซับซ้อนไม่หักมุม สนุกกำลังดี คิวบู๊ที่ได้หงจินเป่ากำกับก็ยังพอทำเนาครับแต่ไม่สะใจเท่าที่ลีเคยทำไว้ ฉากจัดงานศพบิลลี่ ลู๊ก็ได้ใช้ภาพงานศพของลีเองให้เป็นประโยชน์ด้วยครับ สมจริงโดยไม่ต้องเซ็ต นักแสดงในเรื่องเล่นได้ในมาตรฐานที่น่าพอใจเสียดายก็ตรงที่ว่าลีไม่ได้อยู่เล่นหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองครับดราม่าอาจจะดีกว่านี้หลายเท่า
5.5/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น