วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Pet Semetary 1989 บางที"ตาย"อาจจะดีกว่า







Pet Sematary  "กลับจากป่าช้า"1989   



นี่ก็เป็นรีวิวหนังเรื่องที่2แล้ว จากงานเขียนของสตีเฟ่นคิงต่อจากเรื่อง missery ที่ได้รีวิวไปเมื่อคราวก่อนโดยเรื่องโทนเรื่องต่างจากเรื่องนั้นโดยสิ้นเชิง!

ลุงจั๊ด
       ครอบครัวสุขสันต์ของคุณหมอ ลูอิส ครีดส์ () อันประกอปไปด้วยภรรยา เรเชล ลูกสาว เอลลี่ และลูกชาย เกจ  แถมด้วยแมวเหมียวอีกหนึ่งนาม เชริช์ ย้ายบ้านมาอยู่ข้างทาง Highway แห่งหนึ่ง ที่นั้นพวกเขาได้ทำความรู้จักกลับเพื่อนบ้านชายแก่ใจดี จั๊ดส์ ที่อาสาจะพาทุกคนเดินชมสถานที่ สาวน้อยเอลลี่สงสัยว่าทางเดินลึกลับที่อยู่หลังบ้านนั้นจะนำไปสู่ที่ใด  จั๊ดจึงนำทางครอบครัวไปพบกับ Pet Semetary "สุสานสัตว์เลี้ยง" ที่นั่น จั๊ดได้เล่าประวัติความเป็นมาว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับเหล่ารถสิบล้อที่แล่นด้วยความเร็วสูงผ่านถนนหน้าบ้านจะมาลงเอยที่นี่ เอลลี่ยังเป็นเด็ก ยากที่จะเข้าใจเรื่องความเป็นความตาย ลูอิสผู้พ่อจึงพยายามจะอธิบายให้ลูกน้อยได้ฟังแต่เรเชลไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ด้วยว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เด็กควรจะรู้   วันรุ่งขึ้นหมอลูอิสไปทำงานวันแรกก็เจอกับผู้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชนแล้วหนี เขาพยายามช่วยผู้ชายคนนี้แม้ว่าหมอคนอื่นจะบอกว่าเกินเยียวยาแล้วซึ่งก็จริงเพราะชายคนนี้ก็สิ้นลมภายในอึดใจต่อมานั่นเอง หมอลูอิสเตรียมกล่าวอำลากับศพชายผู้โชคร้ายแต่ทันใดนั้นเอง  ศพ!ก็ลืมตาขึ้นพร้อมบอกข้อความอะไรบางอย่างเกียวกับพื้นที่หลังสุสานสัตว์เลี้ยงที่ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด !   



ปาสคาวน์

ยังไม่พอชายคนนี้ยังตามหมอลูอิสกลับไปถึงบ้านเตือนแล้วเตือนอีกเกี่ยวกับเรื่องของพื้นที่ต้องห้ามดังกล่าว    แล้วก็เข้าสู่ช่วงวันขอบคุณพระเจ้าที่ครอบครัวจะต้องไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุดกันที่ชิคคาโก้ หมอลูอิส ขออยู่เฝ้าบ้านด้วยเหตุว่าไม่ถูกกับพ่อตาแม่ยาย หนูเอลลี่กำชับกับพ่อของเธอว่าช่วยดูแลเชริช์แมวของเธอให้ปลอดภัยด้วย เขารับปากว่าจะดูแลมันแต่อานิจัง วันถัดมาจั๊ดโทรมาบอกหมอลูอิสว่า เจอศพแมวนอนตายอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้านเขาให้ไปดูหน่อย เป็นเชริช์จริงๆ หมอตกที่นั่งลำบากเขาจะไปอธิบายลูกน้อยยังไงดี  ?  แต่แล้วจั๊ดก็เสนอตัวนำเขาไปหาที่ฝังเชริช์ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากสุสานสัตว์เลี้ยง ที่ๆ"ปาสคาวน์"ผีชายที่ประสบอุบัติเหตุได้เตือนหมอเอาไว้ว่าอย่าได้ไปยุ่งเกี่ยว  


เชริช์ Come back 

จั๊ดเล่าว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่ดินของอินเดียน"มิคแมค" โดยพื้นดินของที่นี้มีอำนาจบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ขอแค่ให้หมอฝังเชริช์ไว้แล้วก็จะรู้เองว่าเกิดอะไรขึ้น      เช้าวันต่อมา เชริช์ กลับมาจริงๆด้วยเนื้อตัวมอมแมม เหม็นเน่า พร้อมนิสัยไม่เป็นมิตร จั๊ดจึงขยายความว่าที่ดินแห่งนั้นมีพลังที่จะสามารถชุบชีวิตได้ ที่เขาให้หมอทำแบบนี้ไปเพราะรู้ว่า เอลลี่ จะต้องรับความจริงเรื่องแมวตายไม่ได้แน่ เขาขอให้หมอช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าไปบอกลูกเมียเด็ดขาด  จนกระทั่งหมอลูอิสถามขึ้นมาว่า
"จั๊ด เคยมีใครเอาศพคนไปฝังบ้างมั้ย ? "


เป็นคำถามที่ไม่น่าถามออกมาเลยจริงๆพ่อหนุ่ม เพราะหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์สุดคาดคิดขึ้น

ในบ่ายวันนึงขณะที่ครอบครัวกำลังเล่นว่าวกันอยู่นั้นเอง ว่าวก็หลุดมือ!~

เกจ !!!!!!!!

ไม่ !!!!!!!!!
เท่านี้ก็คงพอจะเดาออกนะครับว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นต่อไปหมอลูอิสผู้พ่อจะทำมันจริงๆหรือไม่โปรดติดตามชมได้ใน "Pet Sematary กับจากป่าช้า"    

ตัวอย่างหนัง




Horror/Drama 

สตีเฟ่น คิง ในบทรับเชิญ เป็นบาทหลวง


นิยายของ สตีเฟ่น คิง หลักๆที่เห็นส่วนใหญ๋ถ้าไม่เป็นเรื่่องสยองขวัญเกียวกับภูติผีแล้วปีศาจ แล้วก็จะเป็นงานระทึกขวัญสั่นประสาท แต่หลายเรื่องที่ผมชอบแนวคิดของเขาที่มักจะพูดถึงเรื่องครอบครัวเสมอ ไม่ว่าจะเป็น  The shining "โรงแรมผีนรก"   Carrie  "สาวสยอง " The mist "หมอกมรณะ"   Thinner "ผอมสยอง" และ  Pet Sematary  ล้วนแล้วแต่มีตัวละครหลักที่เป็นครอบครัวที่มีตั้งแต่อบอุ่นไปจนมีปัญหา  ความรักของ บิดา มารดา ที่ทำให้ลูกน้อยได้ทุกอย่างแม้จะยอมทำสิ่งผิดมหันต์ก็ตาม

อีกประเด็นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่อง  เกิด  แก่  เจ็บ  ตาย ในสอดแทรกสิ่งเหล่านี้โดยฉาบไว้บางๆ พอที่คนดูจะจับใจความได้ว่าทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นไปตามวิถีทางของธรรมชาติ เราไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ แต่หากเราปรงใจกับสิ่งเหล่านี้ได้ในแนวคิดแบบชาวพุทธแล้วก็เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ในแบบชาว"คริส"ที่ในหนังพูดถึงหนูน้อยเอลลี่ถามว่าใครเป็นคนกำหนดว่าใครสมควรตาย พระเจ้า หรอ ?  เรื่องแบบนี้มันซับซ้อนเกินที่เด็กจะเข้าใจและผู้ใหญ่จะอธิบาย หมอลูอิสจึงบอกลูกไปว่า"เราก็ควรจะอยู่กับปัจจุบันสิลูก  แมวของลูกยังไม่ตายตอนนี้หรอก" แต่เอลลี่ก็แย้งขึ้นมาว่าแล้วตอนเธออยู่มหาลัยล่ะมันจะยังอยู่มั้ย นี่ก็เป็นแสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเริ่มเข้าใจในระดับนึง  ความเจ็บ กับความ แก่ คนไทยส่วนใหญ่ที่เชื่อในทางพุทธว่ามันเป็นเวรกรรมที่ตามมา  แต่กับชาวตะวันตกที่ไม่ได้เคร่งศาสนาเขามองสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นเพียงอุปสรรคที่จะต้องก้าวข้ามไปต้องหาทางเอาชนะ(ใครมันจะเอาชนะความตายได้)  


หมอลูอิส เป็นหมอแน่นอนว่าจบสายวิทย์-คณิตมา  เชื่อในวิทยาศาสตร์หลักการและเหตุผล แต่ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติก็เข้ามาสั่นคลอนสิ่งเหล่านั้นตั้งแต่ ปาสคาวน์ ออกจากร่างที่โรงพยาบาล เชริช์คืนชีพจากพลังอำนาจของผืนดิน  ซึ่งเป็นสิ่งที่วิทย์ศาสตร์ไม่อาจอธิบายได้   อย่างที่บอกไปบุพการี ทำได้ทุกอย่างเพื่อ บุตร และ บุตรี ถ้าหากคุณสูญเสียคนในครอบครัวไปคุณก็คงจะได้แต่เศร้าโศกเสียใจ  แต่ถ้าคุณรู้วิธีที่จะนำเขากลับมาล่ะ คุณจะทำหรือไม่ ? 

ยิ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้พระเอกหนุ่มวัย40 พอล วอคเกอร์ ก็เพิ่งจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในกองถ่ายหนังเรื่อง Fast and furious 7 สร้างความเศร้าสลดให้แก่คนบันเทิงทั้งไทยและเทศ  ความตายคนเราอาจมองว่าแค่เรื่องธรรดาแต่ถ้าเกิดขึ้นกับ คนรอบตัวเราล่ะ ? หรือกำลังจะเกิดขึ้นกับเรา คุณคิดว่าคุณจะยอมรับมันได้หรือไม่ ?
R.I.P

Paul Walker (I) (1973–2013)



คะแนน   8/10


       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น