Pawn Shop Chronicles (2013) ปล้น วาย ป่วง ให้เสียงภาษาไทยโดย "พันธมิตร"
"Pawn Shop"แปลเป็นไทยว่าโรง"จำนำ" "Chronicles" แปล "บันทึก"หรือจดหมายเหตุก็ได้ แต่ถ้าหนังจะมีชื่อไทยว่า "เรื่องเล่าจากโรงจำนำ" มันก็คนจะดูจืดชืดเกินไป หนังเลยได้ชื่อว่า "ปล้น วาย ป่วง " แต่หนังก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษกับเรื่องปล้นๆนะครับ เพราะ หนังเล่าเหตุการณ์ 3เรื่องภายใน1วัน ทุกเรื่องจะเชื่อมโยงกันหมดและเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันโดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่ง
เรื่องแรกเป็นเรื่องของวัยรุ่น(แต่ดารา40ต้นๆแล้ว) 3 คนที่เมายา และพยายามจะปล้นยา(เอากับมันสิ)จากเพื่อนที่เป็นพ่อค้ายา ติดอยู่ที่ว่าพวกเขาไม่มี"ปืน" แล้วเพื่อนคนนึงในกลุ่มก็เพิ่งจะเอาปืนลูกซองที่มีอยู่กระบอกเดียวไป"จำนำ"มาซะด้วยสิเวรแท้ๆ
เรื่องที่สอง คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันที่กำลังจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ต้องแวะที่ "โรงจำนำ"เพื่อจำนำแหวนแต่งงานเอาเงินสักก้อนไปเที่ยว แต่คุณสามี ริชชาร์ด ก็ไปสะดุดตาเข้ากับ"แหวน"วงนึงในร้านที่เขาจำมันได้ว่าสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษให้กับภรรยาคนแรกที่หายตัวไปอย่างลึกลับ นั่นทำให้เขาคิดจะสืบราวเรื่องไปถึงคนที่พากภรรยาจากเขาไป จนพบกับเรื่องราวที่คุณเองก็จะคาดไม่ถึง
เรื่องสุดท้าย ริคกี้ หนุ่มอาสาสมัครกู้ภัยที่รักราชาเพลงร็อค "Elvis Presley" เป็นชีวิตจิตใจ จนจุดประกายให้เขาเดิมตามเส้นทางแห่งราชา คือเป็นนักร้องก็อปปี้โชว์เอลวิส แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้นแถมยังถังแตกต้องเอาสร้อยทองเอลวิสของแท้ไป"จำนำ"อีก จนเขาพบเข้ากับ"ชายชุดขาว"ที่ทาง"สี่แพร่ง"ที่ยื่นข้อเสนอสุดแสนยั่วยวนให้กับเขา "ความรุ่งโรจน์"แลกกับ"วิญญาณ"
สามเกลอจะเอาอะไรไปปล้นเพื่อน? คุณริชชาร์ดจะไปเจอกับอะไรที่ปลายทางของการตามล่าหาความจริง? ริคกี้จะตัดสินใจเช่นไรกับข้อเสนอ ? ติดตามได้ใน Pawn Shop Chronicles (2013) ปล้น วาย ป่วง ให้เสียงภาษาไทยโดย "พันธมิตร"
ต้องขอบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้อินดี้เอามากๆ สไตล์การเล่าเรื่องและตัดต่อทำให้นึกถึงหนังอย่าง pulp fiction ของท่านเควตินยังไงยังงั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันแต่นำมาเรียงแล้วเล่าใหม่โดยที่เราจะเห็นตัวละครบางตัวจากอีกเรื่องโผล่มาเจอะกันก่อนจะดำเนินเข้าสู่เรื่องของตัวเอง พร้อมด้วยคำพูดเสียดสีสังคม เอาความจริงมาพูดกันซึ่งๆหน้าแบบไม่เกรงใจผู้ใดจัดหนักกันที20+ แถมพันธมิตรช่วยความฮาในแบบที่คนบ้านๆอย่างเราๆก็น่าจะฮาได้ไม่ยาก(ผมนี่ท้องแข็ง) ทุกบทพูดของตัวละครถ้าตั้งใจฟังและเก็บรายละเอียดดีๆเราจะพบว่าทุกอย่างมันเชื่อมโยงถึงกันจริงๆ
ถึงโปสเตอร์จะหลอกคนดูว่ามันเป็นหนังแอ็คชั่นแต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ครับจะเรียกว่ายังไงดี สำหรับคนที่ไม่เคยดู
pulp fiction ผมก็ขอบอกคุณว่ามันก็เหมือนกับหนังเรื่อง "สามย่าน" นะแหละถ้าคุณชอบ pulp fiction หรือ สามย่าน คุณก็สนุกกับเรื่องนี้ได้เหมือนกันครับ
ดารานี่จัดเต็มครับ ที่จะของกล่าวถึง ณ ตรงนี้เด่นๆก็ Paul Walker ในบท Raw Dog ที่ออกแนวซื่อบื้อไม่ทันคน พูดอะไรออกมาแต่ละอย่างนี้มีสาระแต่ก็ไม่เข้าใจสาระที่ตัวมันเองพูดขึ้นมาเอง Brendan Fraser ทิ้งคราบนักล่ามัมมี้มาเป็นเอลวิสตกอับแทนก็เล่นได้กวนTeenเอามากๆ หุ่นเหิ่นแกสมัยก่อนตอนเป็น"จอร์ทเจ้าป่า"นี่ไม่เหลือแล้วครับ"พุงเพรียวๆ" Elijah Wood พ่อโฟรโด้ของเราทำให้หมดความเอ็นดูหน้าตาอันอ่อนเยาว์ของเขากับหนังรื่องนี้เลยทีเดียวไม่ต่างอะไรกับที่เขาทำไว้ใน"SinCity" ภาคแรก" และ "Norman Reedus" ของสาวๆอีก ซึ่งรายหลังที่ถือว่าทำให้ผมผิดหวังอย่างแรงเลยไม่โชว์หน้า(ใส่หน้ากาก)แถมใส่กางเกงในตัวเดียวเล่นทั้งเรื่องอีก
สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อมันก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ ถ้าพูดกันเป็นเรื่องๆไป ตอนแรกนี่คงต้องการจะพูดถึงโทษของยาเสพติด ตอนที่สองก็การเลิกจมอยู่กับอดีตแล้วมีความสุขอยู่กับปัจจุบันเพราะเราอาจจะต้องวนเวียนอยู่กับความทุกข์ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น ส่วนในตอนสุดท้ายก็แสดงให้เราเห็นว่าคนเราเมื่อถึงจุดๆนึงที่เราท้อแท้และสิ้นหวังยอมจำนนต่อ"กิเลส"เราก็อาจจะเรียกร้องหา"ปาฏิหาริย์"หรือไม่ก็อาจยอมขาย"วิญาณ" เหตุการณ์สามเรื่องนี้ล้วนมาจาก"สิ่งของ"ใน"โรงรับจำนำ"ทั้งสิ้น สิ่งของทุกชิ้นมันมีที่มาที่ไปผ่านมือใครต่อใครมาหลายคนแล้วยิ่งในโรงรับจำนำอีกถ้าหากหยิบของ อะไรก็ได้ขึ้นมาสักชิ้นมันก็จะมีเรื่องราวและประวัติสาสตร์พ่วงท้ายมาด้วยเสมอนั่นล่ะครับ อยู่ที่ว่าเราจะหยิบเอาอะไรขึ้นมาเล่า
-Pawn Shop Chronicles เป็นอีกหนึ่งผลงานเรื่องท้ายๆของดาราแอ็คชั่นผู้ล่วงลับ Paul Walker ถ้าใครคิดถึงเขาก็ลองไปหามาดูกันครับ แต่ถ้าเป็นติ่งๆวอคกิ้งเดธที่หยิบมาดูเพราะมีนอร์แมนอยู่บนหน้าปกก็ของแสดงความเสียใจมา ณ จุดๆนี้ด้วยครับ ตลก ดราม่า และ รุนแรง ในระดับที่ว่าผมไม่แนะนำเด็กที่อายุต่ำกว่า10ขวบดูจะดูก็ควรมีผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำด้วยไม่งั้นลูกคุณอาจจะนอนฝันร้ายได้
7/10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น